JAG System เป็นระบบอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการปฏิบัติการกู้ภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับระบบลาก ลดระดับ และระบบปรับแรงตึง ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในสถานการณ์กู้ภัยต่างๆ รวมถึงการปฏิบัติการช่วยเหลือในเมือง พื้นที่รกร้าง รวมไปถึงการใช้งานด้านอุตสาหกรรมด้วย
ส่วนประกอบและการออกแบบ
รอก
โดยทั่วไป JAG System หรือระบบลากช่วยเหลือจะมีรอกขนาดกะทัดรัดและประสิทธิภาพสูง รอกเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักมากในขณะที่ลดแรงเสียดทานไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานประเภทต่างๆ
- Efficiency Rating : รอกในระบบ JAG ได้รับการออกแบบให้มี Efficiency Rating สูงโดยทั่วไปจะสูงกว่า 90% เพื่อลดแรงเสียดทานและเพิ่มแรงในการลาก
- ความสามารถในการรับน้ำหนัก : โดยทั่วไปได้รับการออกแบบให้รับน้ำหนักได้มากถึง 2-3 kN (กิโลนิวตัน) ต่อรอก ซึ่งเหมาะสำหรับการปฏิบัติการกู้ภัย
- ขนาดและน้ำหนัก : ดีไซน์กะทัดรัด รอกเหล่านี้มักจะมีน้ำหนักระหว่าง 50 ถึง 100 กรัมต่อตัว ทำให้มีน้ำหนักเบาแต่ก็ทนทาน
Progress Capture Device
ส่วนสำคัญของระบบ คือ อุปกรณ์ Progress Capture Device หรือ self-jamming pulley ซึ่งช่วยให้การทำงานในระบบลากจูงราบรื่น และมั่นใจในความปลอดภัยโดยการป้องกันไม่ให้โหลดหล่นหรือหลุดออกหากหยุดลาก
- กลไก : ติดตั้งกลไกลูกเบี้ยวที่ล็อคเชือกภายใต้น้ำหนักโหลดและปล่อยออกเมื่อลาก
- Load Rating : โดยทั่วไปอุปกรณ์เหล่านี้มี Load Rating ประมาณ 2-3 kN
- การใช้งานกับเชือก : ออกแบบมาเพื่อใช้กับเชือกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 8 มม. ถึง 11 มม.
เชือกและสายเคเบิ้ล
ระบบใช้เชือกและสายเคเบิ้ลพิเศษที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากันได้กับรอกและ Progress Capture Device โดยทั่วไปแล้วจะมีความแข็งแรงสูงและทนทาน โดยได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกดดันในการปฏิบัติการกู้ภัย
- เส้นผ่านศูนย์กลางและความแข็งแรง : เชือกที่ใช้มักมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-11 มม. โดยมีความต้านทานการแตกหักเกิน 20 kN
- วัสดุ : โดยทั่วไปทำจากไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูง ให้ความทนทานและความยืดหยุ่น
ตัวเชื่อมต่อ
คาราไบเนอร์และตัวเชื่อมต่ออื่นๆ ใช้เพื่อเชื่อมโยงส่วนประกอบต่างๆ อย่างปลอดภัย มักทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เช่น เหล็กหรืออลูมิเนียม คาราไบเนอร์ในมักจะมี Strength Rating ที่ประมาณ 20-30 kN ตามแนวแกนหลัก
ฟังก์ชั่นและการใช้งาน
- ระบบลาก : ระบบ JAG มักใช้เพื่อลากของหนัก สิ่งนี้อาจมีความสำคัญในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การช่วยเหลือในแนวดิ่ง หรือเมื่อเคลื่อนย้ายอุปกรณ์หนักในอุตสาหกรรมต่างๆ
- การหย่อนของหนัก : มีประสิทธิภาพอย่างมากในการทำงานที่เรียกว่า lowering หรือการลดระดับสิ่งของลงอย่างช้าๆ เช่น การส่งของหนักลงไปด้านล่างด้วยความปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องมีความแม่นยำและเสถียรภาพ
การใช้งานระบบรอกในการดับเพลิง
- การช่วยชีวิตผู้คนในจุดที่ยากลำบาก : เมื่อผู้คนติดอยู่ในสถานที่เข้าถึงยาก เช่น อาคารสูงหรือพื้นที่ที่ถล่ม นักดับเพลิงใช้ระบบ JAG เพื่อดึงพวกเขาออกมาอย่างปลอดภัย
- ใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก : เนื่องจากมีขนาดเล็กและเบา ระบบ JAG จึงเหมาะสำหรับการช่วยเหลือผู้คนจากพื้นที่แคบ เช่น ทางเดินแคบหรือห้องเล็กๆ ซึ่งมักจำเป็นในการดับเพลิง
- การกู้ภัยโดยใช้เชือก : ในสถานการณ์ที่นักดับเพลิงจำเป็นต้องปีนลงหน้าผาหรือเข้าถึงบุคคลที่อยู่ในจุดที่เข้าถึงได้ยาก ระบบ JAG จะช่วยให้พวกเขาเคลื่อนขึ้นลงเชือกได้อย่างปลอดภัย
- การใช้งานชั่วคราว : นักดับเพลิงใช้ระบบ JAG เพื่อดึงเชือกให้แน่น ซึ่งจะช่วยยึดโครงสร้างชั่วคราวหรือรักษาพื้นที่ให้ปลอดภัยในระหว่างการช่วยเหลือและดับเพลิง
- การเคลื่อนย้ายในอาคาร : ในอาคารสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลิฟต์ไม่ทำงาน ระบบ JAG ช่วยให้นักดับเพลิงและอุปกรณ์ของพวกเขาเคลื่อนขึ้น ลง ระหว่างชั้นได้
การจัดการกับของหนัก เมื่อนักผจญเพลิงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายของหนัก ระบบ JAG ช่วยให้ง่ายขึ้นเพราะช่วยกระจายน้ำหนักทำให้บรรทุกของหนักน้อยลง
นอกจากนี้ สำหรับองค์กรหรือสถานที่ที่มีการอบรมดับเพลิง อย่างสม่ำเสมอ จะมีการทบทวนและปรับปรุงแผนการอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลการเรียนรู้เป็นประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา