12
เป็นกระบวนการสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบดับเพลิงที่ใช้น้ำในอาคารหรือสถานที่ต่างๆ ดังนี้
1. ปัจจัยด้านอายุ
-
- ตรวจสอบอายุการใช้งานของสปริงเกอร์ เนื่องจากสปริงเกอร์มีอายุการใช้งานยาวนาน การใช้งานมากกว่า 50 ปีอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดและควรตรวจสอบหรือเปลี่ยนสปริงเกอร์เก่าที่มีอาการเสื่อมสภาพได้ทันทีหากพบปัญหา
2. ความไวต่ออุณหภูมิ
-
- สปริงเกอร์ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงควรถูกตรวจสอบบ่อยขึ้น เช่น ทุก 5 ปี เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกความไวต่ออุณหภูมิสูงยังคงมีประสิทธิภาพและไม่เสื่อมสภาพ
3. การทดสอบสปริงเกอร์
-
- เลือกสปริงเกอร์อย่างน้อย 4 ตัวหรือ 1% จากห้องขนาดต่ำกว่า 4,500 ตารางฟุต เพื่อการทดสอบ เลือกสปริงเกอร์ที่แสดงความหลากหลายของระบบทั้งหมดได้อย่างชัดเจน และทดสอบเข้มงวดเพื่อความสามารถในการใช้งาน
4. การตรวจสอบท่อและฟิตติ้ง
-
- ตรวจสอบท่อเป็นประจำเพื่อตรวจสอบการกัดกร่อน รูพรุน หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจทำให้ระบบไม่มีประสิทธิภาพ
การตรวจสอบสิ่งอุดตัน
-
- ตรวจสอบสิ่งอุดตันในท่อที่อาจทำให้ระบบท่อไม่มีประสิทธิภาพ การตรวจสอบท่อเชิงรุกทุก 5 ปีสามารถป้องกันการอุดตันได้
ถังเก็บน้ำ
-
- ตรวจสอบสภาพในถังเก็บน้ำ เช่น การกัดกร่อน รูพรุน หรือความเสียหายภายในถัง เช็คถังระบายน้ำและลดปริมาณตะกอนที่อาจสะสมในถัง
การเชื่อมต่อ
-
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อทางเข้า–ทางออก ท่อระบายน้ำ และโครงสร้างการเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันสิ่งกีดขวางและให้มั่นใจว่าระบบถูกติดตั้งถูกต้อง
การทำงานของวาล์วและการทดสอบ
-
- ตรวจสอบวาล์วและทำการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าวาล์วสามารถทำงานได้ถูกต้อง
Post-indicating Valves (PIV)
-
- ตรวจสอบ PIV อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบรอยรั่ว ความเสียหายทางกายภาพ หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจขัดขวางการทำงาน
ระบบป้องกันการแข็งตัว
-
- ตรวจสอบความเข้มข้นของสารป้องกันการแข็งตัวให้แน่ใจว่าสารละลายสามารถป้องกันการแช่แข็งได้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ
การตรวจสอบสปริงเกอร์ตามมาตรฐาน NFPA 25 เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ระบบดับเพลิงที่ใช้น้ำมีประสิทธิภาพและปราศจากปัญหาในการใช้งานในระยะยาว การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้จะช่วยให้สภาพปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ สถานการณ์คาดเป็น